ยินดีต้อนรับสู่ Blogger ของ นางสาวณัฐมล นาบุญ นะค่ะ

..........สวัสดีทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม Blogger ของดิฉัน Blogger อันนี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นสื่อการเรียนการสอน วิชาชีพครู ในภาคเรียนที่ 1/2558 เป็นสื่อที่ทันสมัยที่ใช้ร่วมกันในห้องเรียนและเว็บ Blogger ทำให้มีความสะดวกสบาย ทำให้ได้ทั้งข้อมูลและความรู้และรูปภาพที่เกีวข้องกับความเป็นครูช่วยให้ผู้เรียนสะดวกสบายมีอิสระในการศึกษาค้นคว้า ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเว็บ Blogger นี้จะมีประโยชน์ต่อทุกคนไม่มากก็น้อย

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1

ความหมายของครู
          พุทธทาสภิกขุ (๒๕๒๗ : ๙๒) กล่าวว่า คำว่า "ครู" เป็นคำที่สูงมาก เป็นผู้เปิดประตูทางวิญญาณ แล้วก็นำให้เกิดทางวิญญาณไปสู่คุณธรรมเบื้องสูง เป็นเรื่องทางจิตใจโดยเฉพาะ มิได้หมายถึงเรื่องวัตถุ
          อำไพ สุจริตกุ กล่าวว่า คำว่า "ครู" "ปู่ครู" "ตุ๊ครู" และ "ครูบา" ในสมัยโบราณ หมายถึง พระสงฆ์ผู้ทำหน้าที่สอนกุลบุตรทุกระดับอายุ ตั้งแต่วัยเด็ก จนถึงวัยรุ่น สอนทั้งด้านอักขรวิธี ทั้งภาษาไทย และภาษาบาลี สอนให้เป็นคนดีมีวิชาชีพ ตลอดจนความรู้ทางพระพุทธศาสนา แม้เมื่อศิษย์มีอายุครบบวชแล้ว ก็ยังคงศึกษาในวัดหรือสำนักนั้น ๆ ต่อไป จนมีความรู้ความชำนาญ สามารถถ่ายทอดวิชาที่ได้รับการสั่งสอนฝึกฝนจากครูบาของตนให้แก่ศิษย์รุ่นหลังของสำนักต่อไป หรืออาจลาไปแสวงหาความรู้ความชำนาญต่อจากพระสงฆ์หรือครูบา หรือตุ๊ครู ณ สำนักอื่น เมื่อเชี่ยวชาญแล้วก็กลับมาช่วยสอนในสำนักเดิมของตน จนเป็นครูบาสืบทอดต่อไป
          เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ได้ร้อยกรองบทประพันธ์เกี่ยวกับครูไว้อย่างไพเราะจับใจว่า
ใครคือครู ครูคือใครในวันนี้ 
ใช่อยู่ที่ปริญญามหาศาล 
ใช่อยู่ที่เรียกว่า ครูอาจารย์ 
ใช่อยู่นานสอนนานในโรงเรียน 
ครูคือผู้นำทางความคิด 
ให้รู้ถูกรู้ผิด คิดอ่านเขียน 
ให้รู้ทุกข์รู้ยากรู้พากเพียร 
ให้รู้เปลี่ยนแปลงสู้รู้สร้างงาน 
ครูคือผู้ยกระดับวิญญาณมนุษย์ 
ให้สูงสุดกว่าสัตว์เดรัจฉาน 
ครูคือผู้สั่งสมอุดมการณ์ 
มีดวงมานเพื่อมวลชนใช่ตนเอง 
ครูจึงเป็นนักสร้างผู้ยิ่งใหญ่ 
สร้างคนจริงสร้างคนกล้าสร้างคนเก่ง 
สร้างคนให้ได้เป็นตัวของตัวเอง 
ขอมอบเพลงนี้มาบูชาครู 
         จากตัวอย่างความหมายของครูข้างต้น จะเห็นว่า ครูต้องเป็นคนที่มีทั้งความรู้และความประพฤติที่ดี กอปรด้วยความเมตตากรุณาต่อศิษย์ คงไม่เกินความจริงที่จะกล่าวว่า ครูเป็นบุคคล "ไตรภาคี" คือ มาจากองค์ประกอบสำคัญ ๓ ประการ คือ ๑) ความรู้ดี ๒) ความประพฤติดี และ ๓) มีคุณธรรม (เมตตากรุณา) หากขาดองค์ประกอบอย่างใดอย่างหนึ่งจะไม่สามารถเป็นครูที่ดีได้
          องค์ประกอบ ๓ ประการนี้ เป็นหลักความจริงที่น่าพิจารณาอย่างยิ่งสำหรับผู้มีหน้าที่เป็นครู เพราะผู้ที่มีองค์ประกอบทั้งสามนี้ และพัฒนาถึงชั้นสูงสุด จะอยู่ในฐานะเป็นยอดครู หรือบรมครู เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงได้รับการขนานพระนามว่า "บรมครู" เพราะพระองค์ ทรงมีองค์ประกอบ ๓ ประการนี้ที่พัฒนาถึงชั้นสูงสุดแล้ว คือ ทรงมีพุทธคุณ ๓ ประการ คือ
๑. พระปัญญาคุณ (ความรู้)
๒. พระวิสุทธิคุณ (ความบริสุทธิ์, ความประพฤติดี)
๓. พระกรุณาคุณ (ความสงสาร,ทนไม่ได้ที่จะไม่ช่วยเหลือคนอื่น)
ความหมายของครู ตามรูปแบบ
          ความหมายของครูดังกล่าวข้างต้นเป็นความหมายตามเนื้อความหรือเนื้อแท้ของครู กล่าวคือ ผู้ที่เป็นครูควรมีภาวะดังกล่าวอันได้แก่ ความรู้ ความประพฤติ และคุณธรรม ไม่ว่าครูนั้นจะอยู่ ณ ที่ใด หน่วยงานไหนก็ตาม ยังมีความหมายของครูอีกอย่างหนึ่งที่กำหนดโดยกฎหมาย ให้เป็นรูปแบบ แบ่งเป็นชั้นหรือระดับ สูงต่ำแตกต่างกัน และอาจเกิดสิ่งที่เรียกว่าเกียรติ หรือศักดิ์ศรี แทรกซ้อนอยู่ในรูปแบบนั้นด้วย ซึ่งบางทีอาจปิดกั้นไม่ให้มองเห็นความ หมายตามเนื้อแท้ก็ได้ ความหมายของครูโดยกฎหมายนี้อาจเรียกว่า “ความหมายของ ครูตามรูปแบบ” แต่มันเป็นความหมายไม่แน่นอนตลอดไป อาจมีการเปลี่ยนไปได้ใน เมื่อใดกฎหมายกำหนดขึ้นมาใหม่ ก็อาจจะเปลี่ยนไปใหม่ได้ตามรูปแบบนั้นๆ ความหมายของครูตามรูปแบบนั้นจะเห็นได้จากกฎหมายบางฉบับ เช่น พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครู พ.ศ. ๒๕๒๓ กำหนดรูปแบบของครูโดยเรียกว่า “ข้าราชการครู” ซึ่งมี ๓ กลุ่ม ได้แก่
๑. กลุ่มที่ทำหน้าที่เป็นผู้สอนในหน่วยงานการศึกษา
๒. กลุ่มที่มีหน้าที่บริหารและให้การศึกษาในหน่วยงานทางการศึกษา
๓. กลุ่มที่มีหน้าที่เกี่ยวกับให้การศึกษาที่ไม่สังกัดโรงเรียน วิทยาลัย หรือสถานศึกษาที่เรียกชื่ออย่างอื่นของกระทรวงศึกษาธิการ
          เฉพาะกลุ่มที่ ๑ ซึ่งทำหน้าที่สอนเป็นหลัก มีการแบ่งตำแหน่งเป็นระดับต่าง ๆ ไปจากล่างไปสูง คือ
- ครู ๑
- ครู ๒
- อาจารย์ ๑
- อาจารย์ ๒
- อาจารย์ ๓
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์
- รองศาสตราจารย์
- ศาสตราจารย์
          บางตำแหน่งก็กำหนดให้มีได้เฉพาะในบางหน่วยงาน คือตั้งแต่ตำแหน่งผู้ช่วย ศาสตราจารย์ถึงศาสตราจารย์ จะมีได้เฉพาะหน่วยงานที่มีการสอนถึงระดับ ปริญญาตรีเท่านั้น ความหมายของครูตามรูปแบบอาจมีส่วนกระทบในทางลบต่อความหมายของครูตาม เนื้อแท้ก็ได้ และคำว่า “ครู” อาจจะค่อย ๆ เลือนหายไปจากความสนใจของสังคมโดยอาจ ถูกมองว่าไม่เหมาะสมกับยุคสมัย เช่นที่เรียกว่า “ครู” ก็เรียกว่า “อาจารย์” หรือผู้ ช่วยศาสตราจารย์ หรือคำอื่น ๆ อาจจะเป็นใครก็ได้ที่สามารถทำหน้าที่สอนได้ จนที่สุดแม้แต่ เครื่องเทคโนโลยีก็อาจเป็นครูได้ เพราะสามรถทำหน้าที่สอนให้เกิดความรู้ได้ ดังนั้นองค์ประกอบแห่งความเป็นครูที่กล่าวข้างต้น คือ ความรู้ ความประพฤติและคุณธรรม
อาจเหลือเฉพาะองค์ประกอบเดียวคือ ความรู้เท่านั้น

4 ความคิดเห็น :

  1. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  2. นัท ตกแต่งหน้าปกได้สวยงามอ่านง่ายเข้าใจแล้วว่าเนื้อหาของ Blogger นี้เกี่ยวกับความเป็นครู ทำภาพพื้นหลังไปลายลูกไม้สวยงามดีมาก การไล่สีตัวอักษรทำได้ดีในระดับนึ่งแต่ควรใช้สีตัวหนังสือให้เข้มกว่านี้อีกซักหน่อย ตัวหนังสือใหญ่ดีมาก ในหน้าแรกควรใส่หน่วยการเรียนรู้ที่ 1-9 ด้วยนะ ส่วนเนื้อหา หน่วยที่ 1-9 ครบถ้วนสมบูรณืดีมากค่ะ

    ตอบลบ
  3. นัท ตกแต่งได้สวยงามมาก เราอ่านตั่งแต่้บทที่ 1-9 เนื้อหาโอเคมากนะ หน้าปกสวยงามอร่ามแท้แลตลึง
    พื้นหลังสวยงามมากมากถถึงมากที่สุด เราชอบของนัทนะ รูปภาพประกอบดีงามพระรามสี่ สวยงามทั้งหมดทุกอย่างเลยนะคับ

    ตอบลบ
  4. บล็อกเกอร์ของนัด ตกแต่งพื้นหลังหัวข้อบล็อกได้ดี สวยงามมาก น่าสนใจมากเลย แล้วยังมีเพลงประกอบดึงดึดความสนใจเรามากเวลาเราเข้ามาอ่าน แต่นัดน่าจะเปลี่ยนเพลงให้เกี่ยวกับครูนะ จะบ่งบอกถึงเนื้อหามากกว่านี้ ข้อมูลเนื้อหานัดครบถ้วนดี บล็อกเกอร์ของนัดดีมากค้ะ

    ตอบลบ